ผมขอนำแนวคิดและสไตล์การทำงานแบบ “พนักงานระดับท็อป 5%” 3 รูปแบบที่อยากบอกต่อมาฝากทุกคน สำหรับเป็นแนวทางในการพัฒนาการทำงานของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การเรียนรู้และนำแนวทางการทำงานของพนักงานระดับท็อปมาปรับใช้กับการทำงานของเราคือทางลัดที่จะช่วยให้การทำงานของเราพัฒนาและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากได้เห็นต้นแบบกระบวนการคิด ทัศนคติ การตัดสินใจ หรือการแก้ปัญหาที่สามารถนำไปปรับใช้ได้จริง
ไม่ตั้งเป้าที่ความสมบูรณ์แบบ
แทนที่จะตั้งเป้าที่ความสมบูรณ์แบบตั้งแต่แรก การดำเนินงานพร้อมกับคอยปรับแก้ไขไปเรื่อย ๆ จะช่วยให้เกิดผลลัพธ์ง่ายกว่า
พนักงานระดับท็อป 5% จะระลึกอยู่เสมอว่าต้องลงมือทันทีหลังรวบรวมข้อมูลได้ราว 60-70% พวกเขาจึงรวบรวมข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดเวลาและความถูกต้องในระดับหนึ่งเอาไว้ และพนักงานระดับท็อป 5% จะกำหนดระดับความถูกต้องหรือเป้าหมายไว้ที่ 80% กำหนดเวลาที่ต้องใช้ในการทำงาน และไม่ตั้งเป้าที่ความสมบูรณ์แบบ
วิธีนี้จะช่วยให้งานเดินหน้าและนำไปสู่ผลลัพธ์ได้ง่าย!
“จริงด้วยนะ แต่ถ้าทำแบบนี้จะยิ่งดีขึ้นไปอีก” คำพูดติดปากช่วยสร้างทีมให้แข็งแกร่ง
พนักงานระดับท็อป 5% รู้ว่าทุกอย่างจะพังทลายทันทีที่เราคิดว่า ไม่ไหวแล้ว
แต่พวกจะไม่คิดถึงเหตุผลว่าทำไมจึงทำไม่ได้ แต่จะพยายามคิดหาวิธีที่จะทำให้ได้ ทำให้เวลาแสดงความเห็นในที่ประชุม พวกเขาจึงมักเริ่มต้นด้วยการพูดว่า Yes มากกว่า No และจะปิดท้ายด้วย Yes เพื่อให้ทุกคนเกิดกำลังใจและความรู้สึกแง่บวก ในทางจิตวิทยาเราเรียกสิ่งนี้ว่า Yes Set Technique เป็นวิธีพูดช่วยให้อีกฝ่ายเริ่มต้นการสนทนากับเราได้อย่างสบายใจ ส่งผลให้เกิดการยอมรับในตัวตนและความเชื่อใจในตัวผู้พูด
ต่อให้เป็นเรื่องร้ายแรง หากเราจบการสนทนาด้วยเทคนิคนี้ จะช่วยเพิ่มความประทับใจและคลายความกดดันได้!
ไปตรงนั้นตรงนี้ตลอด ไม่อยู่ติดโต๊ะ
คุณสมบัติที่โดดเด่นอย่างหนึ่งของพนักงานระดับท็อป 5% คือมีจุดเชื่อมโยงกับคนอื่นมาก
นอกจากการออกไปพบลูกค้าแล้ว พนักงานระดับท็อป 5% ยังมักไปตรงนั้นตรงนี้ภายในบริษัทอยู่เสมอ แล้วพยายามสร้างจุดเชื่อมโยงกับผู้อื่น พวกเขามักมีทักษะการส่งข้อความอย่างเชี่ยวชาญ ซึ่งไม่ใช่เพื่อการประชุม แต่เพื่อเพิ่มโอกาสในการ “พูดคุย” กับคนนอกแผนกและคนที่อายุต่างกัน พนักงานระดับท็อป 5% จะสร้างจุดเชื่อมโยงกับผู้อื่น เพื่อให้ตนเองสามารถสื่อสารความคิดได้อย่างตรงไปตรงมา เพิ่มพวกพ้อง และดึงคนอื่นเข้ามามีส่วนร่วม
ยิ่งปัญหาซับซ้อนเท่าไร ก็ยิ่งดึงคนเข้ามามาก เพื่อหาวิธีแก้ไขให้ได้อย่างรวดเร็ว!
บทความโดย howto
เรียนรู้เคล็ดลับการทำงานกับ
นิสัยคนเก่งระดับท็อป 5% ที่ AI ค้นพบ
ชินจิ โคชิคาวะ เขียน
อาคิรา รัตนาภิรัต แปล
คลิกที่นี่เพื่อสั่งซื้อได้เลย