ความทรงจำมีประโยชน์อะไร แม้แต่ความทรงจำดีๆ ก็ยังทำให้เราเจ็บปวด อดีตไม่อาจเยียวยาได้… แต่หากย้อนเวลากลับไปเพื่อตามหาสิ่งที่ขาดหายได้ คุณจะเลือกเส้นทางนี้หรือไม่
ชวนพูดคุยกับ พิม หวังเดชะวัฒน์ ถึงเรื่องราวเบื้องหลังของหนังสือ The Moon Represents My Heart เราต่างเป็นดวงจันทร์อันโดดเดี่ยว ซึ่งเธอได้ถ่ายทอดเรื่องราวโดยตั้งต้นจากประสบการณ์ชีวิตของตนเอง สู่นิยายขายดีที่ถูกซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างซีรีส์บน Netflix
The Moon Represents My Heart เราต่างเป็นดวงจันทร์อันโดดเดี่ยว เรื่องราวของครอบครัวเชื้อสายจีนที่มีความสามารถในการเดินทางย้อนไปยังอดีตได้ แต่แล้ววันหนึ่ง การท่องเวลานั้นก็ได้พรากพ่อแม่ผู้เป็นเสาหลักไปอย่างเป็นปริศนา ความสูญเสียครั้งใหญ่หลวงที่ลูกๆ ต้องแบกรับ เจ็บปวดเกินกว่าจะรับมือไหว บาดแผลจากความโดดเดี่ยวที่พวกเขาต้องเผชิญ สุดท้ายแล้วจะนำพาพวกเขาไปพบกับเส้นทางชีวิตแบบไหน ชีวิตในอดีตแสนสุข ปัจจุบันอันเศร้าโศก หรืออนาคตที่ไร้หนทางก้าวเดิน
เส้นทางความสำเร็จของนักเขียนไทยที่มาไกลเกินฝันนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร ความพิเศษของหนังสือเล่มนี้มีอะไรซ่อนอยู่ กองบรรณาธิการสำนักพิมพ์ words ได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณพิม หวังเดชะวัฒน์ และนำบทสัมภาษณ์นี้มาฝากนักอ่านทุกคน
รู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อได้ข่าวว่าหนังสือเล่มนี้ถูกซื้อลิขสิทธิ์โดยบริษัทโปรดักชัน 21Laps และอาจจะกลายเป็นซีรีส์ Netflix โดยมีเจมมา ชาน เป็นโปรดิวเซอร์
ตื่นเต้นมากๆ เลยค่ะ รู้สึกว่าเหมือนฝัน ตอนที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมา มีนักแสดงคนเดียวที่เราคิดภาพเป็นตัวละคร นั่นก็คือเจมมา เป็นลิลี พอรู้ว่าเค้าอ่าน และชื่นชอบ แถมยังอยากเป็นโปรดิวเซอร์ด้วย ถึงขั้นกรี๊ดในโทรศัพท์กับเอเย่นต์เลยค่ะ เป็นอะไรที่เว่อร์มากๆ
ตอนนี้โปรเจกต์ยังอยู่ในขั้นตอนพัฒนากับ Netflix มีนักเขียนบทช่วยดัดแปลง เป็นกระบวนการที่ลุ้นมากค่ะว่าจะไปถึงตลอดรอดฝั่งมั้ย แต่ก็ได้เรียนรู้อะไรเยอะ และถือว่าเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมากๆ ค่ะ
อยากให้อธิบายความพิเศษในการเล่าเรื่องของหนังสือเล่มนี้ (บางส่วนเล่าแบบเว้นบรรทัดเหมือนกลอนเปล่า บางส่วนก็เล่าแบบร้อยแก้วทั่วไป) ทำไมถึงเลือกจะเล่าเรื่องในวิธีที่เป็นเอกลักษณ์เช่นนี้
หนึ่งในแรงบันดาลใจสำหรับการเขียนแนวนี้คือหนังสือ Memoir ชื่อ The Terrible ของ Yrsa Daley-Ward ที่เขียนเล่าเรื่องชีวิตตัวเองผ่านการผสมผสาน prose และ poetry เลยอยากใช้วิธีนี้บ้างกับนวนิยายเล่มนี้ เพื่อสร้างจังหวะและอารมณ์ที่ลึกซึ้งขึ้น โดยเฉพาะสำหรับฉากที่เดินทางข้ามเวลา อยากสร้างบรรยากาศที่เหมือนว่า เรากำลังอยู่ในความฝัน คำพูดและสิ่งที่เราทำและเห็น ไหลลื่นกลมกลืนไปกันหมด จนเราแยกไม่ออกว่าอันไหนคือความจริง ความฝัน หรือความทรงจำที่บิดๆ เบี้ยวๆ ในฉากโรแมนติกหรือดราม่ามากๆ ก็เหมือนกัน ความรัก ความเศร้า และความเจ็บปวดเป็นอารมณ์ที่ขึ้นๆ ลงๆ ทั้งสวยงามและน่ากลัว การใช้ poetry เข้ามาแซมๆ มันช่วยทำให้ผู้อ่านรับรู้ความรู้สึกของตัวละครได้มากขึ้น
รู้สึกอย่างไรที่ The Moon Represents My Heart ถูกแปลเป็นภาษาไทยให้คนไทย อ่านฉบับแปลแล้วชื่นชอบอย่างไรบ้าง
เป็นสิ่งที่พิเศษและซาบซึ้งมากค่ะ บอกเอเย่นต์ตั้งแต่แรกเลยว่า ภาษาที่อยากได้ลิขสิทธิ์แปลมากที่สุดคือภาษาไทย เหตุผลหลักคือ หนังสือเล่มนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากครอบครัวของพิมเอง และครอบครัวพิมก็เป็นครอบครัวไทยจีนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ ทั้งเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ที่ใกล้ชิดและเป็นกำลังใจให้เสมอก็เป็นคนไทย หลายๆ คนอ่านภาษาอังกฤษไม่คล่อง อย่างเช่นคุณแม่ เพราะฉะนั้น นี่ก็จะเป็นครั้งแรกที่คนใกล้ตัวจะได้อ่านกันค่ะ
พออ่านแล้วชื่นชอบการแปลของพี่ออ (อรทัย พันธพงศ์ นักแปล) มากกกก รู้สึกภาษาไพเราะ ไม่เหมือนนวนิยายแปลเลย และการเลือกใช้คำ และการคล้องจองประโยคก็ทำให้เรื่องราวความรู้สึกตัวละครยิ่งลึกซึ้งเกินกว่าที่คิดไว้ อ่านฉากบางฉากแล้วถึงขั้นน้ำตาซึมเลยค่ะ ไม่เคยคิดว่าจะเพราะและกินใจถึงขนาดนี้
พิมเองก็เป็นคนที่รักภาษาไทยมาก แค่เวลาเขียนเองออกแนวภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน 😅 เลยพอได้อ่านผลงานของตัวเองเป็นภาษาไทยเลยเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากๆ ค่ะ
The Moon Represents My Heart เราต่างเป็นดวงจันทร์อันโดดเดี่ยว เป็นอีกหนึ่งผลงานจากนักเขียนไทยที่โดดเด่นและมีเความเฉพาะตัวทั้งเนื้อหาและรูปแบบการเขียน เรื่องราวที่ได้รับอิทธิพลมาจากครอบครัวเชื้อสายจีนของตัวนักเขียนเอง อีกทั้งชื่อหนังสือซึ่งมีที่มาจากเพลง ดวงจันทร์แทนใจของฉัน โดยราชินีเพลงจีน เติ้งลี่จวิน คงจะเชื่อมโยงกับนักอ่านชาวไทย และคนไทยเชื้อสายจีนได้ไม่ยาก นวนิยายภาษาภาษาสวยที่อยากให้ได้ลองอ่านสักครั้ง ไม่แน่ว่าคุณอาจได้พบสิ่งที่เคยทำหล่นหายไป ในระหว่างเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้
บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ทำความรู้จัก ‘ อายาสึจิ ยูกิโตะ ’ ผู้เสกความลึกลับผ่านตัวหนังสือกับนิยายสืบสวนชุดคฤหาสน์ฆาตกรรม